เงินจากอุตสาหกรรมยาสูบกับท่าทีของทรัมป์ต่อบุหรี่ไฟฟ้าที่เปลี่ยนไป

 

    ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ “มีท่าทีใหม่ในนโยบายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า  ที่สอดคล้องกับการได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากอุตสาหกรรมยาสูบ และเกิดขึ้นหลังจากที่เขาพบกับ เครือข่ายตัวแทนสมาคมการค้าบุหรี่ไฟฟ้า” ตามข่าวในหนังสือพิมพ์วอร์ชิงตันโพสต์ วันที่ 24 กันยายน ค.ศ.2024 ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการหาเสียงในการแข่งขันเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัยที่ 2

        

    ทรัมป์เป็นคนที่แอนตี้เหล้ากับบุหรี่สุด ๆ เขาพูดถึงพี่ชายของเขา ที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุราเรื้อรังขณะอายุเพียง 41 ปี ในช่วงหาเสียงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก 

       

    เขาประกาศว่า เขาไม่เคยบอกอะไรกับลูกชายอายุ 13 ปี นอกจาก “อย่าสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ (บุหรี่ไฟฟ้า) ”

        

    ในการเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์มีท่าทีไม่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า เขาจะให้ออกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นรส เพิ่มอายุห้ามขายบุหรี่แก่คนที่อายุต่ำกว่า 21 ปี เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน

        

    แต่แม้เขาจะออกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าชนิดที่มีกลิ่นรสไม่สำเร็จ หลายรัฐก็นำไปออกเป็นกฎหมายของรัฐ และมีการรณรงค์พิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าด้วยงบประมาณนับหมื่นล้านบาท

       

    บ้านเราล็อบบี้ยิสต์บุหรี่ไฟฟ้าก็มีการออกข่าวว่าเข้าพบกับพรรคการเมืองต่าง ๆ ช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุดปีที่แล้ว แม้จะไม่มีการเปิดโปงรายละเอียดอย่างที่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เผยแพร่

       

    ล่าสุดมีเสียงจากล็อบบี้ยิสต์บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยโพสต์ทำนองว่า ทรัมป์ยังสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าเลย

       

    แต่เขาไม่ได้บอกว่า สหรัฐอเมริกาทุ่มเททรัพยากรลงไปเท่าไรในการรณรงค์ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า นอกเหนือจากที่แต่ละปีเขาใช้งบประมาณในการควบคุมยาสูบทั้งประเทศเกือบ 3 หมื่นล้านบาท บ้านเรางบควบคุมยาสูบปีละ 300 ล้านบาท เท่าเดิม ในสถานการณ์การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปถึงเด็กนักเรียนชั้นประถมทั่วประเทศ

      

    ขนาดการสำรวจการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียนระดับประเทศ เรายังไม่มีคนที่จะไปทำและงบประมาณที่จะสนับสนุน

      

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ 

4 มกราคม 2568

อ้างอิง https://www.washingtonpost.com/politics/2024/09/21/trump-vaping-tobacco-lobbyist/